ทัวร์ญี่ปุ่น UNSEEN YAMAGUCHI SHIKOKU AUTUMN

22.00 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 เคาน์เตอร์เช็คอิน สายการบินไทย เจ้าหน้าที่บริษัท คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสารและสัมภาระ

01.00 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น โดย สายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 648 (สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

08.10 น. เดินทางถึง สนามบินฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าเวลาประเทศไทย 2 ชม.) ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร และรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว

[สำคัญมาก!!ไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศญี่ปุ่นหากฝ่าฝืนมีโทษจับปรับได้]

ปราสาทโคคุระ (Kokura Castle) ปราสาทเก่าแก่มีอายุกว่า 400 ปี ปราสาทแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในเมืองโคคุระ บริเวณช่องแคบคังมงที่อยู่ใจกลางเมืองคิตะคิวชู ทำให้สะดวกต่อการคมนาคมเป็นอย่างมาก ทั้งยังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเกาะคิวชู รอบๆเขตปราสาท มีการดูแลเป็นอย่างดี และจากตัวปราสาทกสามารถมองเห็นย่านการค้าเกิดใหม่ชื่อว่าริเวอร์วอล์ก คิตะคิวชูและที่นี้ยังมีรูปปั้นของปรมาจารย์ดาบอย่างท่าน มิยาโมโตะ มูซาชิ และ ซาซากิ โคจิโระ ที่เคยประลองดาบกันในศึก “เกาะกันริว" อันโด่งดังทางประวัติศาสตร์

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 1)

ศาลเจ้าโมโตโนสุมิ (Motono sumi Shrine)  มีชื่อเสียงในเรื่องเสาโทริอิสีแดง 123 ต้นที่ตั้งเรียงรายเป็นระยะทางกว่า 100 เมตร (328 ฟุต) นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิยมเดินใต้เสาโทริอิที่ทอดยาวคล้ายอุโมงค์พลางอธิษฐานเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ นอกจากนี้ยังมีกล่องบริจาคตั้งอยู่ด้านบนของเสาโทริอิ ถ้าหากท่านโยนเข้ากล่องได้ คำอธิฐานก็เจะเป็นจริง นอกจากนี้ เมื่อท่านเดินผ่านเสาโทริอิไปทางมหาสมุทรก็จะได้เพลิดเพลินกับวิวอันสวยงามที่ได้รับการขนานนามว่า “Ryugu no Shiofuki”(น้ำพุปราสาทมังกร) ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดจากคลื่นกระทบรูตรงหน้าผา ทำให้อากาศถูกบีบอัดและดันน้ำทะเลให้พุ่งลอยขึ้นไปบนอากาศ โดยสามารถพุ่งขึ้นได้สูงสุดถึง 30 เมตร (98.5 ฟุต) ในช่วงระหว่างฤดูใบไม้ร่วงไปจนถึงฤดูหนาว ที่มาของชื่อวิวนี้มาจากภาพของน้ำทะเลที่พุ่งขึ้นด้านบนนั้นดูคล้ายกับมังกรที่กำลังทะยานขึ้นท้องฟ้านั่นเอง ให้ท่านได้ได้สักการะและเพลินเพลินกับการเก็บภาพความประทับใจ

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 2)

ที่พัก HAGI ONSEN AREA หรือเทียบเท่าในระดับสามดาว

หลังจากทานอาหารค่ำ ให้ผ่อนคลายกับการแช่น้ำจากแร่ธรรมชาติสไตล์ญี่ปุ่น

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 3)

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองอิวาคุนิ เยี่ยมชมความงามของ สะพานคินไตเคียว (Kintai Kyo Bridge) สะพานไม้ 5 โค้ง 1 ใน 3 สะพานที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น สร้างครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2216 แต่พังทลายลงในปีต่อมา จึงได้มีการสร้างขึ้นใหม่และอยู่มายาวนานกว่า 270 ปีจนกระทั่งถึง พ.ศ. 2493 สะพานแห่งนี้ได้พังทลายเพราะถูกพายุไต้ฝุ่นคิจิยะพัดทำลาย ชาวอิวาคุนิเลยพร้อมใจกันสร้างสะพานขึ้นมาใหม่อีกครั้งตามรูปแบบเดิม

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 4)

นำท่านชมใบไม้เปลี่ยนสี สวนโมมิจิดานิ (Momiji dani) หรือหุบเขาใบไม้แดง เป็นสวนสาธารณะที่มีวัดอยู่หลายแห่งที่มีมาตั้งแต่สมัยเอโดะ ตั้งอยู่ในหุบเขาซึ่งเต็มไปด้วยต้นเมเปิ้ลที่เปลี่ยนใบเป็นสีแดงในฤดูใบไม้ร่วง โดยปัจจุบันมีเมเปิ้ลหลากหลายสายพันธุ์มากกว่า 1,000 ต้น นับเป็นอีก 1 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสี ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของฮิโรชิม่า

นั่งเรือเฟอร์รี่เพื่อข้ามสู่ เกาะมิยาจิม่า สถานที่ที่ได้รับยกย่องว่ามีทิวทัศน์สวยที่สุด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น และประตูสีแดงกลางน้ำ “โอโทริอิ” อันเลื่องชื่อ จากนั้นนำท่านสักการะ ศาลเจ้าอิทซึกุชิม่า (Itsukushima Shrine) ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างคร่อมทั้งบนบกและในทะเล สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1136 เพื่อบูชาเทวีแห่งท้องทะเลซึ่งเป็นธิดาสามองค์ของอะมะเทระสุเทวี ในขณะที่น้ำขึ้นเต็มที่นั้นศาลเจ้าจะเหมือนเรือขนาดยักษ์ที่ลอยน้ำอยู่ ศาลเจ้าแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี พ.ศ. 2539 และรัฐบาลญี่ปุ่นได้ยกฐานะให้เป็นสมบัติประจำชาติ

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 5)

ที่พัก HIROSHIMA HOTEL AREA หรือเทียบเท่าในระดับสามดาว

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 6 )

เมืองฮิโรชิมะ เมืองที่ถูกทำลายในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เที่ยวชม อนุสรณ์สถานสันติภาพฮิโรชิมะ (Atomic bomb Dome/Hiroshima Peace Memorial) ซึ่งเป็นสถานที่แสดงซากคอนกรีตที่เหลือจากการถูกระเบิด โจมตีทางอากาศ เป็นสถานที่เป็นจุดศูนย์กลางระเบิด ที่โดนถล่ม ณ วันที่ 6 สิงหาคม 1945 ซึ่งสถานที่แห่งนี้ ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การ UNESCO ให้เป็นมรดกโลก

ผ่านชม สะพานทาทาระ สะพานที่เป็นหนึ่งในสามเส้นทางของ โครงการสะพานฮอนชู - ชิโกกุ เชื่อมต่อหมู่เกาะ ฮอนชู และ ชิโกกุ สะพานมีระยะกึ่งกลาง 890 เมตร ในปี 2010 มีช่วงหลักที่ยาวที่สุดเป็นอันดับสี่ของสะพานที่วางสายเคเบิลหลังจาก สะพานสุตอง ทางด่วนเป็นชุดของถนนและ ฝั่งตรงข้าม ทะเลเซโตะใน ในญี่ปุ่น สะพานคุรุชิมะ - ไคเกียว อยู่บนเส้นทางเดียวกัน สะพานแห่งนี้เปิดใช้เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2542 มีช่องจราจรสองช่องทางในแต่ละทิศทางและมีช่องทางสำหรับจักรยานจักรยานยนต์และคนเดินเท้าเพิ่มเติม เดิมทีสะพาน Tatara ถูกวางแผนไว้เป็น สะพานแขวน ในปี 1973 ในปี 1989 ได้เปลี่ยนการออกแบบเป็นสะพานพักสายเคเบิลที่มีช่วงเดียวกัน

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 7 )

เดินทางสู่ เกาะชิโกะคุ (Shikoku) คือ 1 ใน 4 เกาะหลักของญี่ปุ่น บริเวณรอบเกาะโอบล้อมด้วยทะเลเซโตะ (Seto Inland Sea) และมหาสมุทรแปซิฟิก ประกอบด้วย 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเอะฮิเมะ (Ehime), จังหวัดคางาวะ (Kagawa), จังหวัดโทคุชิมะ (Tokushima) และจังหวัดโคชิ (Kochi) บนเกาะนี้มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ อากาศค่อนข้างอบอุ่นจึงมีพืชพักให้ทานได้ตลอดทั้งปี จุดเด่นบนเกาะนี้ คือ มีอุด้งที่แสนอร่อยลือชื่อ มีเส้นทางปั่นจักรยาน มีโชยุที่เป็นรสชาติดั้งเดิม มีความเขียวชอุ่มของต้นไม้ในขุนเขา มีเส้นทางจาริกแสวงบุญที่ยาวนานถึง 1,200 ปีไปยังวัด 88 แห่ง ทั้งนี้พื้นที่บริเวณโดยรอบยังมีเกาะเล็กเกาะน้อยที่มีมนต์เสน่ห์น่าค้นหา

เดินทางสู่ ถนนโดโงะ ไฮคาระ มีของฝากท้องถิ่นให้เลือกซื้อมากมาย ซึ่งยาว 250 เมตร และเป็นที่ตั้งของร้านอาหารและร้านค้ากว่า 60 แห่ง มีร้านจำนวนมากที่เปิดให้บริการจนถึง 22:00 น. เป็นแหล่งซื้อของที่เต็มไปด้วยเมนูอาหารที่หลากหลาย เหมาะสำหรับท่านที่เป็นนักชิม ท่านสามารถลิ้มลองเมนู เช่น บอตชาน ดังโงะ (เกี๊ยวหวาน) เค้กทาร์ตอันมีชื่อของเอฮิเมะ และปลาสับทอดสูตรดั้งเดิมของเอฮิเมะและยังเหมาะสำหรับการหาซื้อของฝาก ซึ่งมีให้เลือกมากมายไม่ว่าจะเป็นเครื่องเคลือบ Tobe ware แบบดั้งเดิม ผ้าเชิดตัวอิมาบาริอันอ่อนนุ่ม และส้มแมนดารินเอฮิเมะ ที่เป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดเอฮิเมะ

นำท่านถ่ายรูปคู่กับ หอนาฬิกาบตจังคาระคุริ มีอีกชื่อว่า หอนาฬิกาโบ๊ทจัง (Botchan Karakuri Clock) ตั้งอยู่ที่เมืองมัตสึยามะ (Matsuyama) จ.เอฮิเมะ (Ehime) ใกล้ ๆ กับบ่อออนเซ็นเท้า โฮโจเอ็นสแควร์ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองมัตสึยามะ ที่ปลายสุดของศูนย์การค้าจะมีนาฬิกาโบตจังคารากูริ นาฬิกาเรือนนี้จะแสดงความวิเศษออกมาทุก ๆ ชั่วโมงตั้งแต่ 8 นาฬิกาจนถึง 22 นาฬิกา เมื่อถึงเวลานาฬิกาจะยืดตัวขึ้นเพื่อแสดงตัวละครจากเรื่องโบตจังในนิยายของนัตสึเมะ โซเซกิพร้อมเสียงดนตรีประกอบ ข้าง ๆ นาฬิกาจะมีอ่างล้างเท้าขนาดเล็กเพื่อแช่เท้าเพื่อผ่อนคลายหลังจากเดินเที่ยวทั้งวัน

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 8 )

ที่พัก DOGO ONSEN AREA หรือเทียบเท่าในระดับสามดาว

หลังจากทานอาหารค่ำ ให้ผ่อนคลายกับการแช่น้ำจากแร่ธรรมชาติสไตล์ญี่ปุ่น

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม (มื้อที่ 9)

นำท่านเดินทางชม ปราสาทมัตสึยามะ ตั้งอยู่บนเนินเขาคัตสึยะมะได้รับการคัดเลือกให้ติด 100 สุดยอดปราสาทในญี่ปุ่นเมื่อปี 2006 และเป็น 100 สุดยอดสถานที่ทางประวัติศาสตร์ในโครงการญี่ปุ่นแสนสวยเมื่อปี 2007 พื้นที่สวนสาธารณะชิโระยะมะทั้งหมดซึ่งรวมถึงพื้นที่คูน้ำได้รับการบรรจุเป็นสถานที่ประวัติศาสตร์แห่งชาติและได้รับเลือกเป็น 100 สุดยอดสถานที่ชมซากุระในญี่ปุ่น (1990) และ 100 สุดยอดสวนทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น (2006) อีกด้วย นอกจากนี้นำท่านนั่ง กระเช้าหรือนั่งเก้าอี้เลื่อนขึ้นชมปราสาทมัตสึยาม่า เพื่อชมวิวอันสวยงามระหว่างทางขึ้นปราสาทมัตสึยาม่า

นำท่านชม พิพิธภัณฑ์ผ้าขนหนู (Towel Museum) จังหวัดเอะฮิเมะ ผ้าขนหนูอิมาบาริ (Imbari Towel) เป็นผลิตภัณฑ์ชื่อดังของจังหวัดเอะฮิเมะ (Ehime) ด้วยสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติที่เหมาะสมและมาตรฐานการตรวจสอบอันเข้มงวด ทำให้สามารถผลิตผ้าขนหนูเนื้อดีคุณภาพเยี่ยม ซึ่งมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น โดยที่เมืองอิมาริ (Imabari City) ในจังหวัดฮิเอะฮิเมะ เป็นที่ตั้งของผ้าขนหนู (Towel Museum) ให้ท่านได้เลือกซื้อของที่ระลึก อาทิ ผ้าขนหนู อย่างเพลิดเพลิน

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 10 )

เดินทางสู่ สะพานอิยะโนะคะซึระบะชิ เป็นหนึ่งในสะพานโบราณที่มีความแปลกติด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น สร้างจากไม้เนื้อแข็งหนัก 5 ตัน ทุก ๆ 3 ปี จะมีการบูรณะซ่อมแซมใหม่ สะพานทอดพาดยาวอยู่กับต้นสนซีดาร์ขนาดใหญ่ที่ปลายทั้งสองข้าง และมีสายเคเบิลเหล็กซ่อนอยู่ภายในเถาวัลย์เพื่อความปลอดภัย ท่านสามารถเดินสะพานได้ เมื่อลองข้ามสะพานก้าวหนึ่งก้าวสะพานจะสั่นไหวเล็กน้อย นี่คือความตื่นเต้นของการข้ามสะพานนี้ เป็นสะพานที่ใหญ่ที่สุดและเป็นที่นิยมมากที่สุด ทอดยาวเป็นระยะทาง 45 เมตร กว้าง 2 เมตร สูงจากผิวน้ำ 14 เมตร (น้ำหนักประมาณ 6 ตัน) ข้ามแม่น้ำอิยะ (Iya River) ที่ใจกลางหุบเขา และให้ผู้มาเยี่ยมชมมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงาม พบกับประทับใจแน่นอนเพราะที่นี่มีความสวยงาม

นำท่านขอพร ศาลเจ้าโคโตฮิระกู (Kotohira-gu Shrine) หรืออีกชื่อหนึ่งว่า คมปิระซัง (Konpira san) ตั้งอยู่บนภูเขาโซซุ จังหวัดคางาวะ (Kagawa) ในเมืองโคโตฮิระที่สถิตของเทพเจ้าแห่งทะเลจึงเป็นที่เคารพบูชาของชาวเรือ และเป็น 1 ใน 88 ศาลเจ้าและวัดแห่งการแสวงบุญบนเกาะชิโกะคุ ที่ศาลเจ้าแห่งนี้ยังสามารถสักการะ Juichimen-Kannon หรือเจ้าแม่กวนอิม 11 พักตร์ได้ด้วย การเดินขึ้นไปศาลเจ้าจะต้องขึ้นบันไดกว่า 800 ขั้น และหากต้องการเดินขึ้นไปยังศาลเจ้าชั้นในสุด จะต้องเดินต่ออีก 1,368 ขั้น นอกจากนี้ระหว่างทางเดินก่อนมาถึงศาลเจ้าจะผ่านถนนที่มีร้านค้าตั้งอยู่มากมาย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 11 )

ที่พัก KOTOSANKAKU ONSEN AREA หรือเทียบเท่าในระดับสามดาว

หลังจากทานอาหารค่ำ ให้ผ่อนคลายกับการแช่น้ำจากแร่ธรรมชาติสไตล์ญี่ปุ่น

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม (มื้อที่ 12 )

กิจกรรมสวมชุดยูกาตะ คือกิโมโนชนิดหนึ่ง ให้ท่านได้ลองสัมผัสวัฒนธรรมอันมีเอกลักษณ์ สง่างาม เป็นชุดประจำชาติของญี่ปุ่น ที่มีทั้งของผู้หญิงและผู้ชาย ปัจจุบันชาวญี่ปุ่นจะสวมชุดยูกาตะช่วงงานเทศกาล เดินเที่ยวในย่านวัฒนธรรมย่านเก่าแก่ และนำท่านเที่ยวชมใน สวนริสึริน เป็นสวนที่สวยญี่ปุ่นแห่งเกาะชิโกกุ เพลินเพลินกับการถ่ายรูปมุมต่างๆ ในส่วนของกรรมนี้รวมในค่าทัวร์แล้ว (โปรดระบุส่วนสูงตอนจองทัวร์)

เดินชม สวนริทสึริน (Ritsurin Garden) อยู่ที่จังหวัดคางาวะ (Kagawa) ภูมิภาคชิโกกุ เป็น 1 ใน 3 ของสวนที่มีภูมิทัศน์สวยงามและมีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น เป็นสวนขนาดกว้างใหญ่ครอบคลุมพื้นที่มากถึง 750,000 ตารางเมตร มีทั้งภูเขาและสระน้ำในบริเวณสวน พร้อมด้วยภูเขาชิอุง (Shiun Mountain) สูงตระหง่านอยู่เบื้องหลัง ภายในบริเวณสวนมีสระน้ำ 6 สระและเนินเขาจำลอง 13 จุด การวางตำแหน่งของต้นสน สะพาน และการจัดวางหินต่าง ๆ งดงามลงตัว เหมาะจะถ่ายรูปทิวทัศน์สวย ๆ เก็บไว้เป็นที่ระลึก ภายในสวนมีต้นไม้ ดอกไม้หลายสายพันธุ์ปลูกไว้ทั่วบริเวณเช่น ต้นซากุระ ต้นบ๊วย ต้นเมเปิ้ล สวนดอกไอริส เป็นต้น โดยเฉพาะต้นสนเก่าแก่ที่มีจำนวนมากกว่า 1,000 ต้นและเป็นสวนสนโบราณที่ได้รับการดูแลอย่างดีจึงกลายเป็นเอกลักษณ์

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (มื้อที่ 13 )

นำท่านเดินทางสู่ โอซาก้า ช้อปปิ้ง ชินไซบาชิ เต็มไปด้วยความหลากหลายของร้านค้าและแบรนด์ดังมากมายตั้งอยู่ปะปนไปกับร้านค้าแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ได้แก่ Apple Store, Dior, Chanel, Gucci, H&M, Hermès, Louis Vuitton และอื่น ๆ เรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมแทบจะทุกยี่ห้อดังทั่วโลกเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้แล้วยังมีสินค้าจำพวกอาหารและเครื่องดื่มหรือตุ๊กตาน่ารัก ๆ ก็มีให้เลือกซื้อเช่นกัน และนอกเหนือไปจากร้านค้าทันสมัยจากแบรนด์ต่าง ๆ แล้วที่ชินไซบาชิยังมี Shopping Arcade ที่เอาร้านค้าเล็ก ๆ มารวมไว้ภายใต้หลังคาเดียวกันมีเส้นทางยาวประมาณ 600 เมตร มีสินค้าให้เลือกสรรมากมาย อาทิ ชุดกิโมโนแบบดั้งเดิม, อัญมณีเครื่องประดับและร้านหนังสือ เป็นแหล่งที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าชื่อดังและร้านค้ามากมายให้ท่านได้ช้อปปิ้งได้จุใจ และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ๆ ต่าง ๆ มากมาย

เย็น อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย

ที่พัก OSAKA HOTEL AREA หรือเทียบเท่าในระดับสามดาว

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม (มื้อที่ 14 )

นำท่านสู่ ศาลเจ้านัมบะ ยาซากะ (Namba Yasaka shrine) เป็นศาลเจ้าหัวสิงโตยักษ์ ด้วยความสูง 17 เมตร ศาลเจ้าแห่งนี้มีชื่อเสียงในฐานะจุดรับพลังงานศักดิ์สิทธิ์ ในอดีตนั้นสถานที่แห่งนี้มีความเฟื่องฟูจนถึงขีดสุด แต่ภายหลังจากการเกิดไฟไหม้ในช่วงสงครามจึงลดระดับความสำคัญลง แต่ก็มีการบูรณะเปิดใหม่อีกครั้งในภายหลัง โดยที่หัวสิงโตขนาดใหญ่ที่นับเป็นลักษณ์ของศาลเจ้าแห่งนี้ได้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2518 เช่นเดียวกันกับสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ ที่มีการบูรณะขึ้นใหม่หลังได้รับความเสียหายเนื่องจากสงคราม ซึ่งมีความเชื่อว่าปากของสิงโตนั้นจะช่วยกลืนกินสิ่งที่ไม่ดี ปัดเป่าความชั่วร้ายให้หายไปและนำพาโชคลาภเข้ามา คนส่วนใหญ่ที่มาสักการะมักขอพรเรื่องการเรียนหรือด้านการงานให้เกิดความสำเร็จตามที่มุ่งหวัง

จากนั้นนำท่านช้อปปิ้ง อิออน มอลล์ริงกุ เซ็นนัน (Aeon Mall Rinku Sennan) ห้างสรรพสินค้าที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่น มีร้านค้าที่หลากหลายมากกว่า 150 ร้าน เช่น MUJI, 100 yen shop, Sanrio store, Capcom games arcade , ร้านขายเครื่องกีฬา และซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ ให้ท่านได้เก็บจัดการลิสต์ของฝากมาจากคนที่บ้านได้อย่างครบครันเต็มที่

กลางวัน อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย

สมควรแก่เวลาเดินทางนำท่านเดินทางสู่สนามบินคันไซ

ถึง สนามบินคันไซ ทำการเช็คอิน และโหลดกระเป๋าสัมภาระ เพื่อเดินทางกลับสู่ประเทศไทย

17.25 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 673 (สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)

22.00 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ